ผู้สูงอายุควรรับประทานอาหารที่ช่วยบำรุงกระดูกและข้อต่อ
By Birth Intern 07 มี.ค. 2568

ผู้สูงอายุควรรับประทานอาหารที่ช่วยบำรุงกระดูกและข้อต่อเนื่องจากในวัยนี้การเสื่อมสภาพของกระดูกและข้อต่อสามารถเกิดขึ้นได้ง่ายขึ้น ทำให้ความเสี่ยงในการเกิดโรคกระดูกพรุน (osteoporosis) หรือโรคข้อเสื่อม (osteoarthritis) สูงขึ้น อาหารที่ช่วยบำรุงกระดูกและข้อต่อจะช่วยเสริมสร้างความแข็งแรงให้กับกระดูก และลดอาการปวดหรือข้อเสื่อมที่อาจเกิดขึ้นได้ ดังนี้
1. อาหารที่มีแคลเซียมสูง
แคลเซียมเป็นสารอาหารสำคัญที่ช่วยเสริมความแข็งแรงให้กับกระดูกและป้องกันโรคกระดูกพรุน
- แหล่งอาหาร : ผลิตภัณฑ์จากนม เช่น นม โยเกิร์ต ชีส, ผักใบเขียวเข้ม เช่น คะน้า ผักปวยเล้ง, ปลาเล็กปลาน้อย เช่น ปลาซาร์ดีนและปลาทู
-
เคล็ดลับ : การทานแคลเซียมจากแหล่งธรรมชาติจะดีกว่าการทานแคลเซียมเสริมจากอาหารเสริม เพราะมีการดูดซึมและการใช้งานในร่างกายที่ดีกว่า
2. อาหารที่มีวิตามินดี
วิตามินดีช่วยให้ร่างกายดูดซึมแคลเซียมได้ดีขึ้น และมีบทบาทในการเสริมสร้างกระดูกให้แข็งแรง
- แหล่งอาหาร : แสงแดด (เป็นแหล่งธรรมชาติที่ดีที่สุดสำหรับการผลิตวิตามินดีในร่างกาย), ปลาไขมันสูง เช่น ปลาแซลมอน, ปลาทูน่า, ไข่แดง, อาหารเสริมวิตามินดี
-
เคล็ดลับ : ผู้สูงอายุควรพยายามรับแสงแดดช่วงเช้าประมาณ 15-30 นาที 2-3 ครั้งต่อสัปดาห์เพื่อให้ร่างกายผลิตวิตามินดีได้
3. อาหารที่มีกรดไขมันโอเมก้า-3
กรดไขมันโอเมก้า-3 ช่วยลดการอักเสบในข้อต่อ และบรรเทาอาการปวดจากโรคข้อเสื่อม
- แหล่งอาหาร : ปลาแซลมอน, ปลาทูน่า, ปลาซาร์ดีน, เมล็ดเชีย, เมล็ดแฟลกซ์, น้ำมันมะพร้าว
-
เคล็ดลับ : การรับประทานปลาไขมันสูงอย่างน้อย 2 ครั้งต่อสัปดาห์ช่วยเสริมสร้างข้อต่อที่แข็งแรง
4. อาหารที่มีคอลลาเจนและสารสกัดจากกระดูก
คอลลาเจนเป็นโปรตีนที่มีบทบาทในการเสริมสร้างและฟื้นฟูกระดูกและข้อต่อ
- แหล่งอาหาร : อาหารที่มีส่วนผสมของกระดูก เช่น ซุปกระดูก, เจลาติน, เครื่องในสัตว์ (เช่น ตับ) และผลไม้ที่มีวิตามินซีสูง
-
เคล็ดลับ : วิตามินซีช่วยเสริมสร้างคอลลาเจนในร่างกายและมีความสำคัญในการบำรุงกระดูกและข้อต่อ
5. อาหารที่มีแมกนีเซียม
แมกนีเซียมเป็นแร่ธาตุที่ช่วยเสริมสร้างกระดูกให้แข็งแรงและช่วยการทำงานของระบบประสาทและกล้ามเนื้อ
- แหล่งอาหาร : เมล็ดธัญพืช เช่น เมล็ดฟักทอง, ถั่ว, อัลมอนด์, ผักใบเขียว เช่น คะน้า
-
เคล็ดลับ : แมกนีเซียมช่วยให้ร่างกายดูดซึมแคลเซียมได้ดีขึ้น
6. อาหารที่มีวิตามิน K2
วิตามิน K2 มีบทบาทสำคัญในการช่วยนำแคลเซียมไปสะสมที่กระดูกแทนการสะสมที่หลอดเลือด
- แหล่งอาหาร : ผักใบเขียว, ไข่, เนื้อสัตว์, ชีสหมัก
-
เคล็ดลับ : การทานอาหารที่มีวิตามิน K2 ช่วยเสริมประสิทธิภาพในการจัดการแคลเซียมในร่างกาย
วิธีการป้องกันและดูแลตัวเองเพิ่มเติม
- ออกกำลังกายที่เหมาะสม : การออกกำลังกายที่เน้นการเสริมสร้างความแข็งแรงของกระดูกและข้อต่อ เช่น การเดิน, โยคะ, การยืดกล้ามเนื้อ, หรือการยกน้ำหนักเบา
-
หลีกเลี่ยงการสูบบุหรี่และดื่มแอลกอฮอล์ : การสูบบุหรี่และการดื่มแอลกอฮอล์สามารถทำให้กระดูกและข้อต่อเสื่อมสภาพได้เร็วขึ้น
-
ตรวจสุขภาพกระดูก : ผู้สูงอายุควรไปตรวจสุขภาพกระดูกอย่างสม่ำเสมอเพื่อประเมินความเสี่ยงต่อโรคกระดูกพรุนและโรคข้อเสื่อม