การบริจาคเลือด
By Birth Intern 21 มี.ค. 2568

การบริจาคเลือดเป็นกระบวนการทางการแพทย์ที่สำคัญในการรักษาผู้ป่วยที่ต้องการเลือด เลือดที่ได้รับจะถูกนำไปใช้ในการผ่าตัด การรักษาโรคต่าง ๆ และสถานการณ์ฉุกเฉิน ช่วยให้การดูแลสุขภาพของผู้ป่วยเป็นไปอย่างต่อเนื่องและมีประสิทธิภาพ
1. คุณสมบัติของผู้บริจาคเลือด
เพื่อความปลอดภัยทั้งผู้บริจาคและผู้รับเลือด คุณต้องมีคุณสมบัติดังนี้:
-
อายุ: 17-70 ปี (บางสถานที่อาจอนุญาตให้เริ่มที่ 16 ปีโดยมีผู้ปกครองเซ็นยินยอม)
-
น้ำหนัก: มากกว่า 45 กิโลกรัม
-
สุขภาพทั่วไป: ไม่มีโรคติดต่อ, ไม่มีไข้, ไม่มีโรคหัวใจ, ความดันโลหิตไม่ผิดปกติ
-
ระดับฮีโมโกลบิน (Hb): ผู้ชายควรมี Hb ไม่ต่ำกว่า 13.0 g/dL, ผู้หญิงไม่ต่ำกว่า 12.5 g/dL
-
การรับประทานอาหาร: ทานอาหารมื้อปกติและดื่มน้ำมากๆ ก่อนบริจาค
-
การพักผ่อน: ควรนอนหลับอย่างน้อย 6-8 ชั่วโมงก่อนวันบริจาค
-
ไม่บริจาคเลือดในกรณี:
-
เพิ่งได้รับวัคซีนบางชนิด (ต้องรอ 1-2 สัปดาห์)
-
มีโรคติดเชื้อที่สามารถแพร่ทางเลือด เช่น HIV, ไวรัสตับอักเสบ B และ C
-
สตรีที่กำลังตั้งครรภ์หรือให้นมบุตร
-
2. ประเภทของการบริจาคเลือด
มีหลายประเภทที่คุณสามารถบริจาคได้
-
เลือดทั้งหน่วย (Whole Blood): เป็นการบริจาคเลือดทั้งหมดประมาณ 350-450 มิลลิลิตร
-
พลาสมา (Plasma): ส่วนของเลือดที่เป็นน้ำเหลือง ใช้ในการรักษาโรคบางชนิด
-
เกล็ดเลือด (Platelets): สำคัญในการรักษาผู้ป่วยมะเร็งหรือผู้ที่มีปัญหาการแข็งตัวของเลือด
-
เม็ดเลือดแดง (Red Blood Cells): ใช้สำหรับผู้ที่สูญเสียเลือดมากหรือโรคโลหิตจาง
3. ขั้นตอนการบริจาคเลือด
ก่อนบริจาค
-
กรอกแบบสอบถามเกี่ยวกับสุขภาพ
-
ตรวจวัดความดันโลหิต, ชีพจร, อุณหภูมิ, และระดับ Hb
ระหว่างบริจาค
-
ใช้เวลา 10-15 นาที ในการเก็บเลือดเต็มหน่วย
-
สำหรับพลาสมาและเกล็ดเลือด อาจใช้เวลา 45-90 นาที
หลังบริจาค
-
พักประมาณ 10-15 นาที
-
ดื่มน้ำผลไม้หรือน้ำเปล่า
-
หลีกเลี่ยงการออกกำลังกายหนักในวันนั้น
4. ความถี่ในการบริจาคเลือด
-
เลือดทั้งหน่วย: ทุก 3 เดือน
-
พลาสมา: ทุก 2-4 สัปดาห์
-
เกล็ดเลือด: ทุก 2-4 สัปดาห์
-
เม็ดเลือดแดง: ทุก 2-3 เดือน
5. ข้อดีของการบริจาคเลือด
-
ช่วยชีวิต: เลือดหนึ่งถุงสามารถช่วยชีวิตผู้ป่วยได้ถึง 3 คน
-
ดีต่อสุขภาพผู้บริจาค: ช่วยกระตุ้นการผลิตเม็ดเลือดใหม่และลดความเสี่ยงโรคหัวใจ
-
ตรวจสุขภาพเบื้องต้น: คุณจะได้รับผลตรวจสุขภาพเบื้องต้นจากการบริจาค
-
ความรู้สึกดีใจ: รู้สึกภูมิใจที่ได้ช่วยเหลือผู้อื่น
6. ข้อควรระวังหลังบริจาคเลือด
-
หลีกเลี่ยงกิจกรรมหนัก: เช่น การออกกำลังกายหนักในวันบริจาค
-
ดื่มน้ำให้เพียงพอ: เพื่อชดเชยปริมาณเลือดที่หายไป
-
ทานอาหารมื้อหลัก: เพื่อรักษาระดับน้ำตาลในเลือด
-
สังเกตอาการผิดปกติ: หากรู้สึกเวียนศีรษะหรือหน้ามืด ควรรีบแจ้งเจ้าหน้าที่ทันที
7. ศูนย์บริจาคเลือดในประเทศไทย
-
ศูนย์บริการโลหิตแห่งชาติ สภากาชาดไทย
โทร: 02-256-4300
เว็บไซต์: www.redcross.or.th -
โรงพยาบาลใหญ่ ๆ: หลายโรงพยาบาล เช่น โรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์, รามาธิบดี, ศิริราช มีหน่วยบริจาคเลือดประจำ